9 เทรนด์การตลาดคอนเทนต์ที่โลกต้องจับต้องมอง

อีกเพียงไม่กี่วันก็จะผ่านพ้นปี 2015 ไปแล้ว ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่คนเรามักจะหันกลับมาสำรวจและวิเคราะห์บทเรียนในปีที่ผ่านมา สำหรับนักการตลาดก็เช่นกัน ต้องเรียนรู้จากความผิดพลาดการตลาดคอนเทนต์ที่ทำมาตลอด 12 เดือน แต่ในปีหน้าเทรนด์การตลาดคอนเทนต์จะเป็นอย่างไรบ้าง

1.โฆษณาให้น้อย ใส่คุณค่ามากขึ้น

ในศตวรรษที่ 21 เป็นยุคของผู้บริโภคตัดสินใจด้วยข้อมูลข่าวสาร เป็นยุคที่ผู้ชมต้องการเนื้อหาที่มีประโยชน์มากกว่าสิ่งอื่นใด ผู้ชมเริ่มเบื่อหน่ายกับป๊อปอัพโฆษณาที่ทำให้เสียเวลาและข้อมูลสินค้าที่มีไม่กี่บรรทัด
พวกเขาต้องการอ่านรายละเอียดของสินค้า เนื้อหาคอนเทนต์ที่สร้างความรู้และสร้างแรงผลักดันในการตัดสินใจซื้อสินค้า หรือพูดง่ายๆ คือ ผู้บริโภคสมัยใหม่ฉลาดมากขึ้น ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมคุณต้องทำเนื้อหาที่ตรงประเด็น

2.สร้าง blog เป็นของตัวเอง

เมื่อพูดถึงเรื่องเว็บ blog ในปี 2015 ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า ธุรกิจต่างๆ ที่หันมาใช้งาน blog สามารถสร้างทราฟฟิกได้มากกว่าที่ไม่ได้ทำถึง 67% ซึ่งถ้าคุณไม่ได้ใช้งานเครื่องมือนี้ รีบทำด่วน ปัจจุบันมี blog ถูกสร้างขึ้นใหม่กว่า 50,000 blog ในแต่ละวัน

3.คอนเทนต์บทความยังสำคัญ

แม้ว่าการตลาดคอนเทนต์ในปัจจุบันจะเต็มไปด้วยคอนเทนต์ประเภท รูปภาพ วิดีโอ และ visual ต่างๆ
แต่อย่างไรก็ตามคอนเทนต์ตัวหนังสือก็ไม่มีวันตาย เพราะตราบใดที่ผู้คนยังค้นหาด้วยการพิมพ์คีย์เวิร์ด คอนเทนต์บทความ ก็จะมีความสำคัญอย่างต่อเนื่อง ผู้คนจะให้ความสนใจกับเรื่องราวดี บทความดีๆ ที่มีคีย์เวิร์ดที่ต้องการหา นอกจากนี้การค้นหาคำแบบ long-tail จะยิ่งมีความสำคัญในปี 2016 ด้วย

4.เลือกใช้วิดีโอกันบ้าง

แม้ภาพจะสามารถแทนคำพูดได้ 1 พันคำ แต่วิดีโอมีค่าเท่ากับคำเป็นล้านคำ มีการคาดการว่า ในปี 2017 วิดีโอจะครอบครองทราฟฟิกการรับชมของผู้บริโภคถึง 69% ซึ่งแน่นอนว่าปี 2016 จะเป็นปีทองของคอนเทนต์วิดีโอ และที่สำคัญเชื่อว่ารูปแบบวิดีโอ จะดูเป็นสไตล์บ้านๆ มากกว่าจะเป็นภาพยนตร์โฆษณาจากมืออาชีพเพียงเท่านั้น

7.คอนเทนต์จะไหลจากเว็บมาอยู่แอพฯ มากขึ้น

ทั้งนี้ด้วยการเพิ่มขึ้นของผู้ใช้มือถือ หลายต่อหลายคนอ่านข่าวและรับข้อมูลต่างๆ ผ่านสมาร์ทโฟนและแท็บเลตหลายชั่วโมงต่อวัน ดังนั้น จึงถูกคาดการณ์ว่าคอนเทนต์จะไหลเข้าไปอยู่ในแอพฯ ต่างๆ มากขึ้น และปล่อยให้เว็บเบราเซอร์กลายเป็นอดีตไป เราได้เห็นจุดเริ่มต้นแล้วในปีนี้ เมื่อ Apple Watch ตัดสินใจไม่สนับสนุน Safari อีกต่อไป และให้ผู้ใช้เข้าผ่านทางแอพฯ เท่านั้น

8.ชมคอนเทนต์แล้วซื้อสินค้าได้ทันที

ในปี 2016 คอนเทนต์จะเปิดโอกาสให้ยูสเซอร์สามารถซื้อสินค้าได้ทันที ทุกเวลา อย่างที่ Pinterest ได้แสดง Buyable Pins เมื่อไม่นานมานี้ ขณะที่ Instagram เปิดตัวออฟชั่น Shop Now ซึ่งทำให้สามารถซื้อสินค้าผ่านแอพเชื่่อมโยงอย่าง Like2Buy จะเห็นว่าหลายแพล็ทฟอร์มมุ่งมั่นที่จะเป็นแมกกาซีนชอปปิ้ง เปลี่ยนให้ผู้อ่านกลายมาเป็นลูกค้าและซื้อสินค้าได้อย่างไม่ยากเย็น

Leave a Reply

You must be logged in to post a comment.

Leave a Reply