3 เครื่องมือ SEO ที่สำคัญในปี 2016

ในการทำ SEO ให้กับเว็บไซต์สิ่งที่สำคัญที่สุดก็ คือ การมีเครื่องมือที่ดีที่ช่วยให้คุณสามารถมองเห็นโอกาสใหม่ๆ ช่วยประหยัดเวลา และช่วยให้การทำ SEO ดำเนินไปได้อย่างราบรื่น ซึ่งสำหรับผมแล้ว มี 3 เครื่องมือในการจัดการ SEO ที่ผมคิดว่ามีประโยชน์และอย่างจะนำมาแชร์ให้กับคุณได้รับรู้ ไปเริ่มกันเลยครับ

1.เครื่องมือในการวิเคราะห์ Keyword

มีนักการตลาดกล่าวว่า ถ้าขาดคีย์เวิร์ดแล้ว สิ่งที่เรียกว่า SEO ก็ไม่สามารถเกิดขึ้นได้ โดยปรกติ คีย์เวิร์ดเป็นเป็นสิ่งที่ทำให้ยูสเซอร์ที่ใช้งานเสิร์จเอนจิ้น ค้นหาเว็บไซต์ของคุณพบ ซึ่งหมายความว่าเว็บของคุณจะได้รับความนิยมมากหรือน้อย ก็ขึ้นอยู่กับว่าคุณเอาคีย์เวิร์ดเหล่านี้ไปใช้งานมากน้อยแค่ไหน ตลอด 5 ปีหลัง ความก้าวหน้าในการวิเคราะห์และค้นหาคีย์เวิร์ดที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นเรื่อยๆ แต่อย่างไรก็ตามต้องขอบคุณเครื่องมือสำคัญอย่าง Google Keyword Planner ซึ่งเป็นเครื่องมือสำคัญที่ทำให้นักการตลาด
พบโอกาสที่แอบซ่อนอยู่ รวมทั้งมีส่วนช่วยในการเพิ่มทราฟฟิกเข้าสู่เว็บไซต์มากขึ้น และเป็นส่วนสำคัญในการสร้างคอนเทนต์ของคุณด้วย

แต่อย่างไรก็ตามแม้ว่า Keyword Planner จะให้ข้อมูลกับคุณมากมาย กระนั้นก็ขึ้นอยู่กับว่าคุณจะมีความสามารถในการแปลงเอาข้อมูลเหล่านี้มาสร้างสรรค์สิ่งที่แตกต่างได้หรือไม่ ซึ่งผมอยากจะแนะนำให้ลองใช้งานเครื่องมือเหล่านี้กันดูครับ Ubersuggest ซึ่งเป็นตัวฟรี, Term Explorer และ SEMrush ซึ่งเป็นแบบเสียเงิน

2. เครื่องมือวิเคราะห์อันดับ

การได้รู้ว่าเว็บไซต์คุณอยู่อันดับที่เท่าไหร่บน ranking เป็นสิ่งที่สำคัญ มันช่วยให้คุณมีเป้าหมายในการทำการตลาดออนไลน์ ขณะเดียวกันก็เป็นตัวประเมินผลและทำให้เห็นปริมาณทราฟฟิกที่เข้าเว็บไซต์ ซึ่งเครื่องมือเหล่านี้จะช่วยให้คุณไม่ต้องไปเปิดคนหาเว็บไซต์ของคุณทีละหน้า ซึ่งทำให้เสียเวลาเป็นชั่วโมงๆ Google Search Console เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้คุณสามารถตรวจสอบประสิทธิภาพของเว็บไซต์ได้ด้วยตัวเอง ซึ่งเป็นเครื่องมือฟรีไม่เสียเงิน หรือเครื่องมือ Freemium ที่จำกัดการเข้าถึงดาต้าอย่าง SEMrush และแบบเสียเงิน Authority Labs ลองไปศึกษาใช้กันดู

3. เครื่องมือที่ทำให้คอนเทนต์มีประสิทธิผลเพิ่มขึ้น

คอนเทนต์ที่ดีจะช่วยทำให้เว็บไซต์ของคุณ มีอันดับที่ดีใน SEO ranking ด้วย แต่อย่างไรก็ตาม การค้นหาไอเดียสร้างคอนเทนต์ ที่ unique และสดใหม่ เป็นสิ่งที่ค่อนข้างยาก ซึ่งปัจจุบันการสร้างเว็บไซต์ไม่เพียงแต่จะต้องให้เนื้อหาที่มีประโยชน์และสร้างการมีส่วนรวมกับทางผู้ชมแล้ว ยังต้องจะต้องมีประสิทธิภาพอำนวยความสะดวกให้กับเสิร์จเอนจิ้นด้วย ซึ่งเครื่องมืออย่าง Outdated Content Finder, Yoast WordPress Plugin และแบบเสียเงินอย่าง Buzzsumo เป็นเครื่องมือที่จะช่วยให้คุณค้นพบไอเดียใหม่ๆ และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับคอนเทนต์ได้มากขึ้น

ลองค้นหาข้อมูลทำความรู้จักกับเครื่องมือที่ผมแนะนำกันนะครับ นักทำ SEO ที่ดีต้องขวนขวายหาความรู้ด้วยตัวเองอยู่เสมอ เพราะหากคุณหยุดหาความรู้ ไม่พัฒนาตัวเองแล้ว คงตามไม่ทันเทรนด์ SEO ที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา

3 ข้อควรคิด ก่อนตามเทรนด์ SEO ในปี 2016

ถ้าคุณคือนักการตลาดดิจิตอลหรือเจ้าของธุรกิจ คุณคงจะได้ยินคำเหล่านี้ผ่านหูบ่อย เช่น mobile-friendly การตลาดคอนเทนต์ หรือ voice search เป็นต้น ซึ่งประเด็นเหล่านี้กลายเป็น viral เทรนด์ SEO ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นปี 2016 ไปแล้ว แต่อย่างไรก็ตามก่อนที่คุณจะจับเอาประเด็นเหล่านี้มารวมตกผลึกเป็นกลยุทธ์การตลาดของคุณ คุณควรจะหยุดและไตร่ตรองให้รอบคอบเสียก่อนว่า คุณรู้จักมันแค่ไหน และมันมีความสำคัญสำหรับคุณจริงๆ หรือไม่ เพื่อไม่ให้ความพยามยามในการทำ SEO สูญเปล่า ดังนั้น คุณควรเริ่มต้นสร้างกลยุทธ์โดยเริ่มพื้นฐานจากข้อมูลของกลุ่มเป้าหมายของคุณเสียก่อน โดยตอบคำถาม 3 ข้อต่อไปนี้

1.ลูกค้าของคุณใช้งานอุปกรณ์อะไรมากที่สุด

นี่คือคำถามแรกที่คุณต้องตอบก่อนจะปรับปรุงเว็บไซต์ให้เป็นมิตรกับมือถือหรือไม่ จดจำไว้ว่ายังมีการใช้งานจากอุปกรณ์อื่นๆ เช่นเดียวกันกับสมาร์ทโฟน ซึ่งจากสถิติแม้ว่าคนทั่วไปจะมีชั่วโมงการใช้งานมือถือมากกว่าคอมพิวเตอร์เดสทอป แต่บางธุรกิจคุณไม่จำเป็นต้องให้ความสนใจกับมือถือด้วยซ้ำ ถ้ากลุ่มผู้บริโภคเป้าหมายของคุณยังคงดู เคเบิลทีวี หรือรับข่าวสารจากจานดาวเทียมเป็นหลัก ดังนั้น การทำความเข้าใจว่าทราฟฟิกที่เข้าเว็บไซต์ของคุณมาจากที่ไหนจะช่วยกำหนดกลยุทธ์การตลาดที่มีประสิทธิภาพได้ โดยคุณสามารถใช้งาน Google Analytics เพื่อรับทราบข้อมูลเหล่านี้ได้ไม่ยาก

2.ลูกค้าของคุณใช้งานอุปกรณ์ของเขาทำสิ่งใด

หลังจากที่ได้รู้แล้วว่าลูกค้าของคุณใช้งานอุปกรณ์ใดมากที่สุด คำถามต่อมาคือ พวกเขาใช้ทำอะไรบ่อยที่สุด ไม่ใช่ทุกคนที่จะใช้สมาร์ทโฟนเพื่อเข้า Google เพื่อค้นหาข้อมูล จากการสำรวจในปี 2014 พบว่ากว่า 97% ของผู้ใช้สมาร์ทโฟน พวกเขาใช้งานเพื่อส่งข้อความ และ 89% เข้าเล่นอินเตอร์เน็ต นอกจากนั้นกิจกรรมยอดฮิตคือการใช้งาน voice calls หรือ video calls, ส่งอีเมล และเข้าโซเชียลเน็ตเวิร์ค ทั้งนี้ยังมีข้อมูลที่น่าสนใจว่ากว่า 77% ของกิจกรรมบนสมาร์ทโฟน ผู้ใช้ยอมรับว่าใช้งานอุปกรณ์เพื่อหลีกเลี่ยงความเบื่อหน่าย ซึ่งหากคุณใช้ Google Analytics เข้าจับคุณก็จะรู้ว่าพฤติกรรมของผู้บริโภคเป็นอย่างไร และอะไรที่พวกเขาทำระหว่างที่อยู่ในเว็บไซต์ของคุณ

3.ข้อมูลประเภทไหนที่ลูกค้าของคุณต้องการ
การจัดหาหรือสร้างคอนเทนต์ที่ลูกค้าของคุณต้องการเป็นสิ่งที่ช่วยให้การทำการตลาดประสบผลสำเร็จ แต่กระนั้นคอนเทนต์รูปแบบไหนที่เหมาะสมกับปีหน้า ยังเป็นที่ถกเถียงกัน แต่อย่างไรก็ตาม Google และผู้คนทั่วไปเห็นพ้องกันว่า พวกเขาต้องการคอนเทนต์ที่สมบูรณ์และสามารถแก้ปัญหาให้ได้ ดังนั้น คุณไม่ควรโฟกัสอยู่กับคอนเทนต์ที่ดี มีคุณค่าเพียงอย่างเดียว แต่ควรสร้างคอนเทนต์ที่สมบูรณ์และคำนึงสิ่งที่ลูกค้าต้องการด้วย ยกตัวอย่างเช่น ถ้าคุณอยู่ในธุรกิจขายหนังสือการ์ตูน และมีบางคนพิมพ์ค้นหาชื่อหนังสือการ์ตูน ซึ่งพวกเขาคงไมต้องการอ่านข้อมูลภายในที่ตัดมาเพียงบางส่วน แต่พวกเขาอาจจะต้องการซื้อหนังสือมากกว่า ดังนั้นคุณใส่สิ่งที่พวกเขาต้องการและมีความสมบูรณ์ที่สุด

เทรนด์ต่างๆ ที่นักการตลาดพูดถึงกันเป็นไกด์ไลน์ที่ดีในการทำ SEO โดยเฉพาะมือใหม่ อย่างไรก็ตามการเปลี่ยนแปลงทำตามเทรนด์ทุกอย่างไม่ใช่เรื่องที่ฉลาด คุณต้องทำความเข้าใจอย่างถ่องแท้ และวิเคราะห์ว่าประเด็นไหนเหมาะสม หรือจำเป็นกับธุรกิจของคุณ ถ้าเกิดความสงสัยหรือไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร การปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเรื่องการตลาดออนไลน์ก็เป็นทางเลือกที่ดีครับ

เทรนด์ SEO ในปี 2016 เป็นอย่างไร เรามาหาคำตอบกัน

ปีเก่ากำลังจะผ่าน ปีใหม่ 2016 กำลังจะเข้ามา ท่านที่ทำ SEO คงจะเริ่มเตรียมตัววางแผนกับปีหน้ากันบางแล้ว SEO เป็นหนึ่งศาสตร์ความรู้ที่เริ่มจากประสบการณ์ มีการเปลี่ยนแปลงและอัพเดทในทุกๆ ปี ซึ่งการเปลี่ยนแปลงในแต่ละครั้ง จะขึ้นอยู่กับทัศนคติและพฤติกรรมของผู้บริโภคในเวลานั้่นๆ และนี่คือเหตุผลที่เราอยากจะให้คุณได้ทราบว่า เราคิดอย่างไรกับเทรนด์ SEO ในปี 2016 ที่จะถึงนี้

1.ประสิทธิภาพที่ดีขึ้นของสมาร์ทโฟนและแอพฯ เป็นตัวกำหนดอนาคตของ SEO

เมื่อวันที่ 21 เม.ย. ที่ผ่านมา Google ได้ปรับ Algorithm ใหม่โดยใส่ปัจจัย Mobile-Friendly Algorithm ซึ่งหากเว็บไซต์ไหนแสดงผลได้ดีบนสมาร์ทโฟน อันดับ Ranking ก็จะดีขึ้นนั่นเอง บางคนบอกว่ามันคือมหาวิบัติ mobilegeddon เลยทีเดียว และหากเว็บไซต์คุณที่ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อรองรับการแสดงผลทางสมาร์ทโฟน ก็จะเริ่มสูญเสียอันดับตำแหน่งในเสิร์จเอนจิ้นลงไป นอกจากการนี้ การทำแอพ เป็นของตัวเองกำลังได้ความนิยม และทาง Google เริ่มต้น index เข้าไปในการค้นหาผ่านมือถือด้วย ซึ่งแน่นอนว่าในปี 2016 เราจะได้เห็นจำนวนการใช้แอพฯ ที่เพิ่มขึ้น

2. การทำ SEO Local

เมื่อการค้นหาผ่านมือถือ กลายเป็นช่องทางที่ได้รับความนิยม นักการตลาดได้ตระหนักว่าสิ่งที่ลูกค้าต้องการค้นหาสินค้า และบริการที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงตำแหน่งที่เขาอยู่ เมื่อต้นปี 2014 ทาง Google ได้ทำการศึกษาพบว่า 80% ของผู้ใช้งานมือถือต้องการผลการค้นหาที่โฟกัสใกล้ๆ กับตำแหน่งที่พวกเขาอยู่ ซึ่งหมายความว่าธุรกิจและบริษัทรับทำ SEO ควรเริ่มต้นปรับเปลี่ยนคอนเทนต์ให้เกี่ยวข้องกับสถานที่มากขึ้น ทั้งนี้เพราะคนที่มีกำลังจ่ายและต้องการซื้อสินค้า จะเริ่มต้นพิมพ์คำค้นหาเกี่ยวกับสถานที่และพวกเขาก็พร้อมที่จะเดินทางไปยังร้านค้าที่อยู่ใกล้ตัวเพื่อซื้อ

3. การสร้างสรรค์คอนเทนต์แบบ interactive

อย่างที่เราทราบกันแล้วว่า คอนเทนต์คือสิ่งที่สำคัญที่สุด Google ชื่นชอบที่จะให้รางวัลกับเพจเว็บไซต์ที่มีคอนเทนต์ตรงประเด็น unique และส่งเสริมการมีส่วนร่วมของยูสเซอร์ แต่อย่างไรก็ตาม มันไม่จำกัดแค่เพียงข้อความตัวหนังสือ ภาพ หรืออินโฟกราฟฟิก เท่านั้น ปัจจุบันมีบริษัทรับทำ SEO มืออาชีพบางแห่งสร้างสรรค์แนวทางต่างๆ ที่จะให้ยูสเซอร์ ได้มีส่วนร่วม ผ่านคอนเทนต์แบบ interactive มากขึ้น และนี่เริ่มกลายเป็นเทรนด์ที่ได้รับความนิยมในปี 2016 ด้วย

4. ประสิทธิภาพที่ดีขึ้นของการเสิร์จค้นหาข้อมูลด้วยเสียง

โดยปรกติเรามักจะพิมพ์คีย์เวิร์ดใน google ซึ่งคีย์เวิร์ดหรือคำค้นเหล่านี้กลายเป็นตัวกำหนดการแสดงผลที่กว้างๆ และในปัจจุบันการค้นหาด้วยเสียงผ่าน แอพฯ อย่าง Google Now, Cortana และ Siri เพิ่มขึ้น นั่นหมายความว่า การตั้งคำถามเพื่อหาคำตอบ จะเฉพาะเจาะจงมากขึ้นและเป็นคำถามง่ายๆ ผ่าน device สมาร์ทโฟน ขณะเดียวกันยูสเซอร์ก็คาดหวังคำตอบที่ตรงกับคำถาม ซึ่งตรงนี้เองนักการตลาดหรือนักรับทำ SEO มืออาชีพ ต้องหันมาปรับแต่งคอนเทนต์เพื่อที่ตอบคำถามเฉพาะมากขึ้น แทนที่การให้ข้อมูลแบบพื้นๆ กว้างๆ ทั่วไป

หวังว่าเทรนด์ SEO ในปี 2016 ที่กล่าวมาทั้ง 4 ข้อจะเป็นประโยชน์ต่อนักการตลาด หรือผู้ที่กำลังวางแผนทำ SEO ในปีหน้าไม่มากก็น้อยนะครับ อย่างไรก็ตามคุณต้องขวนขวายหาความรู้และพยายามใช้เครื่องมือต่างๆ ให้เป็นประโยชน์มากที่สุด เพื่อให้ประสบความสำเร็จกับ SEO ในปีหน้าครับ